Corporate Training
หลักสูตรอบรมสำหรับองค์กร
พัฒนาทักษะของผู้นำ
ให้องค์กรของคุณก้าวไปสู่อีกระดับ
LifeEnricher Academy คือ สถาบันพัฒนาองค์กร เพื่อพัฒนาทักษะพนักงานระดับแนวหน้า Corporate Training ของเราถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน สอนโดย คุณ โอม หะริน จงเจริญรัตน์ และวิทยากรในเครือ LifeEnricher Academy ซึ่งได้อบรมให้กับองค์กรต่างๆ มามากกว่า 600 องค์กร และอบรมบุคคลทั่วไปมากกว่า 20,000 คน
Corporate Training หลักสูตรอบรมสำหรับองค์กร จาก LifeEnricher Academy เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจและความต้องการการพัฒนาองค์กรที่แตกต่างกัน เพื่อให้ธุรกิจของคุณมีศักยภาพในการเติบโตและยืดหยุ่นต่อทุกการเปลี่ยนแปลง เรามุ่งเน้นการเสริมสร้างทักษะ ยกระดับความสามารถ พัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหาร ทีมงาน และเหล่าผู้นำขององค์กร
หลักสูตร Corporate Training ที่ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ
การจัดอบรม Corporate Training เป็นการลงทุนที่สำคัญสำหรับองค์กรในการพัฒนาบุคลากร โดยช่วยเสริมสร้างความสามารถของพนักงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับเจ้าของธุรกิจและฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในองค์กร
หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะพัฒนาทักษะและความสามารถของทีมงานที่คุณไว้วางใจ ให้พร้อมเผชิญหน้ากับการเติบโตทางธุรกิจ LifeEnricher Academy พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบโปรแกรมการอบรมที่ตอบโจทย์ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้นำในองค์กรของคุณ การฝึกอบรมทุกหลักสูตรของ LifeEnricher Academy เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติ การแลกเปลี่ยนมุมมองผ่าน Workshop และกรณีศึกษาที่ตรงกับอุตสาหกรรมของคุณ ทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพทันที อีกทั้งเรายังเป็น สถาบันพัฒนาชีวิตและองค์กร ที่มีวิทยากรมากความสามารถที่พร้อมสำหรับการอบรมให้กับองค์กรของคุณที่ได้รับการ Certified หลักสูตร Neuro Linguistic Programming หรือ จิตวิทยาสื่อประสาท มาตรฐานระดับสากลจาก ABNLP ประเทศสหรัฐอเมริกา, Emotional Hypnotic Therapy มาตรฐานระดับสากลจาก IHA และ Peak Performance Coaching หลักสูตรการโค้ชเพื่อดึงศักยภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของ LifeEnricher และ Elite Coach ชื่อดังท่านอื่นๆ ภายใต้การดูแลของ LifeEnricher อีกด้วย
องกรณ์ที่ไว้ใจให้เราสร้างสังคมแห่งการพัฒนาตัวเอง
Psychology of Leadership
Psychology of Communication
Psychology of EQ
Certification Program
Other
- ทักษะการโค้ช สำหรับผู้นำและผู้บริหาร
- จิตวิทยาผู้นำระดับสูง
- ทักษะการบริหารทีมงาน
- สร้างการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตภายในทีม
- ทักษะผู้นำที่ขับเคลื่อนความสำเร็จของทีมและองค์กร
- สร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความร่วมมือในทีม
- การฟังเชิงลึกอย่างมืออาชีพ
- การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อองค์กร
- การจัดการความขัดแย้งในองค์กร
- การวิเคราะห์คนแต่ละประเภทและเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารกับคนแต่ละประเภท
- การเจรจาต่อแรง
- เพิ่มความสามารถในการเข้าใจและการจัดการอารมณ์
- การจัดการอารมณ์เพื่อความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง
- การจัดการความเครียดและการวิตกกังวล
- การสร้างความสงบและการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
- การประตุ้นแลัพัฒนาทีมงานด้วย EQ
- Peak Performance Coach Certification Program
- LifeEnricher NLP Practitioner Triple Certification Program
- Emotional Hypnotic Therapy Practitioner Certification Program
- Leadership 7 Levels
- Self Breakthrough
- Resilience for Leader
- Psychology of Leadership
- Leadership Essential
- Charismatic
- Communication Leader As Coach
- Legendary Leadership
(Emotional and Stress Management)
หลักสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้การบริหารจัดการอารมณ์และความเครียดในสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน ทักษะที่สำคัญที่คุณจะได้เรียนรู้ ได้แก่ การฟังเชิงลึกอย่างมืออาชีพ ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจและเข้าถึงความรู้สึกของผู้อื่นได้ดียิ่งขึ้น การเจรจาต่อรอง เพื่อหาข้อตกลงที่ดีต่อทุกฝ่าย การจัดการอารมณ์ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง รวมถึงวิธีการจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวล นอกจากนี้ยังมีการฝึกการสร้างความสงบภายในใจ และเรียนรู้การแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้คุณสามารถดูแลทีมงานและคนที่คุณรักด้วย EQ ได้ดียิ่งขึ้น
(Leadership Development)
หลักสูตรนี้เสริมสร้างความเป็นผู้นำในทีมด้วยทักษะการโค้ชสำหรับผู้นำและผู้บริหาร จิตวิทยาผู้นำระดับสูงที่มุ่งเน้นการสร้างการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตในทีม พัฒนาทักษะผู้นำที่สามารถขับเคลื่อนความสำเร็จทั้งในระดับทีมและองค์กร พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นความร่วมมือในทีม เพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน
(Communication and Teamwork)
หลักสูตรนี้เน้นการเรียนรู้การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเพื่อความสำเร็จในองค์กร ด้วยการฝึกการฟังเชิงลึกและการวิเคราะห์บุคลิกภาพของทีมงาน สร้างทักษะการจัดการความขัดแย้งและเจรจาต่อรองอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความเข้าใจและการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นในทุกทีม
ทำไมต้องเลือก LifeEnricher
สำหรับ หลักสูตร Corporate Training
LifeEnricher เป็นบริษัทฝึกอบรมที่มุ่งมั่นสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนา และเสริมสร้างชีวิต ที่จะนำพาบริษัท หรือ องค์กรของคุณให้มีประสิทธิภาพ และบรรลุตามเป้าหมายได้อย่างชัดเจน โดยแบ่งการอบรมออกมาเป็นหัวข้อต่างๆ เช่น เทคนิคการโค้ชสำหรับผู้นำยุคใหม่, วิเคราะห์ได้ ขายเป็น เห็นผลลัพธ์, การพัฒนาองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก, การจัดการอารมณ์และความเครียด ในที่ทำงาน เป็นต้น อีกทั้งหลักสูตรในการอบรมนี้ สามารถออกแบบให้ตรงกับ วัตถุประสงค์ในการอบรมของบริษัทนั้นๆได้อีกด้วย
จากผลงานที่ผ่านมา LifeEnricher ได้มีโอกาสอบรมให้กับองค์กรชั้นนำ ระดับประเทศ เช่น บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน), บริษัท ตำรับไทย สมุนไพรไทย จำกัด, บริษัท แกรนด์ คอส กรุ๊ป จำกัด, ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และเเบรนด์ชั้นนำอื่นๆอีกมากมาย เชื่อมั่นได้เลยว่า ประสิทธิภาพ และคุณภาพในการถ่ายทอดของวิทยากรในเครือ LifeEnricher สามารถทำให้ทีมงานของคุณเปลี่ยนแปลงได้อย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน
อีกทั้ง LifeEnricher ยังมีวิทยากรมากความสามารถที่พร้อมสำหรับการอบรม ให้กับองค์กรของคุณ นำโดย คุณ โอม หะริน จงเจริญรัตน์ : Elite Coach, CEO และผู้ก่อตั้งบริษัท Life Enricher Group Co.,Ltd. สถาบันที่ได้รับการ Certified หลักสูตร Neuro Linguistic Programming หรือ จิตวิทยาสื่อประสาท มาตรฐานระดับสากลจาก ABNLP ประเทศสหรัฐอเมริกา, Emotional Hypnotic Therapy มาตรฐานระดับสากลจาก IHA และ Peak Performance Coaching หลักสูตรการโค้ชเพื่อดึงศักยภาพ Signature ของ LifeEnricher และ Elite Coach ชื่อดังท่านอื่นๆ ภายใต้การดูแลของ LifeEnricher อีกด้วย
LifeEnricher Trainer
จุดเด่นของ Corporate Training / In-House Training จาก LifeEnricher Academy
- หลักสูตรที่ปรับให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจ : เราออกแบบเนื้อหา เพื่อให้ตรงกับความต้องการและเป้าหมายของแต่ละองค์กร เพื่อผลลัพธ์ที่จับต้องได้
- เสริมสร้าง Soft Skills ที่จำเป็นในการพัฒนาภาวะผู้นำ : การพัฒนาทักษะการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการอารมณ์ และความเครียด คือหัวใจของความสำเร็จในทุกธุรกิจ
- ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ระดับแนวหน้า : วิทยากรของเรามีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาองค์กรและทักษะภาวะผู้นำที่สามารถนำเสนอความรู้และเทคนิคที่ตรงกับความต้องการจริง
- บริการติดตามผลหลังการอบรมเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืน : เราไม่หยุดแค่การฝึกอบรม แต่ยังติดตามการพัฒนาของพนักงานในองค์กรคุณ เพื่อให้มั่นใจว่าความรู้ที่ได้รับนั้นถูกนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และให้ติดต่อกลับ
คำถามที่พบบ่อย [FAQ] เกี่ยวกับ หลักสูตรอบรมองค์กร ?
LifeEnricher ดำเนินการสอนหลักโดย คุณโอม หะริน จงเจริญรัตน์ CEO บริษัท Life Enricher Group และยังมีผู้สอนในเครือของบริษัทอีกหลายท่าน ที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อรองรับการสอนอย่างมืออาชีพให้กับทีมงานของคุณได้เต็มที่
หลักสูตรอบรมองค์กร ที่ดำเนินการสอนโดยคุณโอม หะริน จงเจริญรัตน์ และวิทยากรท่านอื่นๆ ได้แก่
- ทัศนคติบวก กับการเติบโตแบบทวีคูณ (Positive Mindset for Positive Growth)
- เทคนิคการฟังระดับลึกถึงใจคน (Deep Listening Skills)
- พัฒนาแรงบันดาลใจ เพื่อทะลุขีดจำกัดของตัวเอง (Motivation Development for Self Breakthrough)
- เทคนิคการโค้ชชิ่ง สำหรับผู้จัดการระดับสูง (Coaching Skills for Executive Level)
- ดึงศักยภาพของภาวะผู้นำ 100% (Supreme Leadership Essential)
- NLP เพื่อพัฒนาศักยภาพจากภายในสู่ภายนอก (NLP for Personal Effectiveness)
- ขายตัวเองได้ ขายอะไรก็ดี (How to sale yourself)
- การจัดการความเครียด ความกดดัน ในที่ทำงานแบบมืออาชีพ (Stress Management at workplace)
- การสื่อสารแบบมืออาชีพ เพื่อการทำงานแบบมีประสิทธิภาพ (Communication Expert)
- การจัดการความขัดเเย้งภายในองค์กร (Organisational Conflict Management)
- การจัดการอารมณ์เพื่อ “ความสุข” ในที่ทำงาน (EQ development for happy workplace)
- ในยุคดิจิตอล กับการเป็นผู้นำที่มีประสิทธิภาพ (Leadership Effectiveness for Digital Era)
- การเป็นผู้นำที่ได้ใจคนในทีม (Emphatic Leadership)
- วิเคราะห์ได้ ขายเป็น เห็นผลลัพธ์
- The art of public speaking
- พูดเป็นดึงดูดใจ พรีเซนต์ได้อย่างมีพลัง (Magnetic Speak-up Program)
- หลักสูตร Personal Branding make Billion
- การพัฒนาองค์กรสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงบวก
การอบรมองค์กร ยิ่งใช้เวลาหลายวัน ผลลัพธ์ก็ทวีคูณตาม แน่นอน เพราะ การอบรมต้องมีช่วงเวลาทั้งทฤษฎี และ ปฏิบัติ เพื่อได้มีเวลาให้ผู้เรียนได้ย่อย ได้ทำตามกระบวนความคิดของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม หากมีการเทรนนิ่งสอน ในระดับ adult learning การเรียนรู้ในวันเดียวก็สามารถส่งผลต่อผลลัพธ์ของผู้เข้าร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาวเช่นกัน และนั้นคือสิ่งที่ LifeEnricher ทำได้ดี เพราะมากกว่าการสอน เราถ่ายทอดการเรียนรู้ ด้วยศาสตร์ของจิตวิทยา เพื่อให้คนจำติดนาน
Life Enricher ขอแนะนำ 10 เทคนิคในการเลือกวิทยากรแบบมืออาชีพให้กับทุกคนครับ
1.ความน่าเชื่อถือ
นอกจากเรื่องของประสบการณ์แล้ว ความน่าเชื่อถือขอวิทยากร เป็นเรื่องที่สำคัญข้อแรกที่ควรพิจารณา ซึ่งคุณสามารถดูได้จากอะไรได้บ้าง? ยกตัวอย่างง่ายๆเลย ก็คือ วิทยากรท่านนั้น ได้มีการอบรม หรือถูกเทรนนิ่งจากที่ไหนมาก่อนหรือไม่? มีใบประกาศนียบัตร หรือ certification รองรับการเทรนนิ่งตามหลักสูตรมาตรฐานสากลไหม? เพราะวิทยากรที่ถูกรับรองจากสถาบันที่น่าเชื่อถือ ย่อมมีความน่าเชื่อถือมากกว่า และสามารถยืนยันได้ระดับหนึ่งว่า วิทยากรท่านนี้ ควรได้มาอบรมให้กับองค์กรของเรา
2. จุดเด่นของวิทยากรท่านนั้น คือ เรื่องอะไร?
แน่นอนว่า วิทยากรในยุคนี้มีหลายศาสตร์ หลายแขนงมากมายให้เราได้เลือกเรียน แล้ววิทยากรท่านไหนที่จะตอบโจทย์ของการอบรมองค์กรเรามากที่สุดกันล่ะ อาทิเช่น คิดบวกเพิ่มพลังชีวิต, ค้นหาความหมายของชีวิตเพื่อพิชิตเป้าหมาย, การพูด Public Speaking, การทำโฆษณาคลาสออนไลน์อย่างไรให้ปัง, ยอดขาย ทะลุล้านง่ายนิดเดียว หรืออีกเยอะมากมาย สำหรับการอบรมองค์กร เพราะฉะนั้น หากวิทยากรที่คุณเลือกมีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์การอบรมด้านนั้นๆ อยู่แล้ว ก็จะทำให้องค์กรของคุณได้รับการอบรมที่มืออาชีพ และมีประสิทธิภาพสูงสุด
3. อย่าให้ความดังหลอกตา
ในปัจจุบัน มีเพจ การพัฒนาตัวเองเกิดขึ้นมากมาย เพจที่คนไลค์เยอะ เป็นคนรู้จักในวงกว้าง คนดังในสังคม ไม่ได้หมายความว่า คนนั้นสอนเก่ง เหมือนกับคนตัดต่อวิดีโอ ไม่ได้หมายความเขาสามารถเป็นโค้ช หรือ เทรนเนอร์ได้เอง เหมือนกันเลยกับ 2 ตัวอย่างนี้ เพราะฉะนั้น อย่าเลือกวิทยากร เพียงเพราะเป็นคนดัง แต่จงเลือกความเป็นมืออาชีพ
4. ก่อนตัดสินใจจ้างวิทยากรต้องสร้างโอกาสพูดคุยกันก่อนเสมอ
มันคือ การสร้างโอกาสให้คุณได้พูดคุยกับวิทยากรท่านนั้น ก่อนการอบรม และ การพูดคุยนี้ ควรพูดไปถึงสิ่งที่คุณต้องการให้อบรม ในองค์กรของคุณด้วย วิทยากรสามารถปรับเนื้อหาให้ตรงจุดที่คุณต้องการ และควรทำการบ้านก่อนมาเจอคุณ เพื่อการคุยที่มีประสิทธิภาพ และสังเกตอีกด้วยว่า วิทยากรพูดรู้เรื่องหรือไม่ เพราะนั่นคือ จริตในการสอน และความมืออาชีพด้วยเช่นกัน
5. แอบทดสอบวิทยากรท่านนั้นว่าเขามีการฟังที่ดีหรือไม่?
ต่อจากการที่ไปพูดคุยกันแล้วนั้น คุณลองถามเขาอีกครั้งดูได้ว่า “ช่วยสรุปให้หน่อยได้ไหม ว่าเมื่อกี้เราคุยเรื่องอะไรกันบ้าง?” เพราะการฟังที่ดี ย่อมไปสู่การสะท้อน และการถ่ายทอดเนื้อหาข้อมูลได้ดี หรือถามเพิ่มเติมได้ว่า “คุณเคยมีประสบการณ์การสอนที่คล้ายกันบ้างไหม?” หรือ “คุณมีตัวอย่างการอบรม ก่อน และ หลังการอบรมไหมว่าพวกเขามีการเปลี่ยนแแปลงไปมากน้อยขนาดไหน” คุณสามารถถามคำถามเหล่านี้กับวิทยากรที่คุณกำลังพิจารณาอยู่ได้
6. ขอตัวอย่างคลิปการสอนของวิทยากรท่านนั้น
คลิปการสอนนี้ไม่ใช่แค่การพูดเหมือนในออนไลน์ หัวข้อสั้นๆ แต่คือ คลิปบรรยากาศของการอบรมจริงๆ เพื่อดูจังหวะ และ จริตของการสอนว่าตรงตามความต้องการของคุณหรือไม่
7. สังเกตภาษาที่วิทยากรท่านนั้นใช้
การใช้ภาษาของวิทยากร คือ เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง เพราะนั้นหมายถึงการถ่ายทอด และสื่อสารได้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่คุณตั้งใจไว้หรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น การเทรนนิ่งพนักงานทั่วไป ต้องใช้ภาษาที่มีความสนุก เฮฮา เอ็นเตอร์เทนต์สักหน่อย เพื่อความเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และหากเป็นผู้บริหารระดับสูง จะใช้ภาษาการสอนที่ลึกซึ้งมากขึ้น วิชาการแน่นมากขึ้น มีหลักฐานพร้อมเรื่องที่พิสูจน์ได้จริง
8. เลือกวิทยากรที่มีความแตกต่าง และ ทันสมัยกับยุคปัจจุบัน
วิทยากรมีความทันสมัยตรงกับยุคปัจจุบันมากขึ้น กล่าวคือ โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมาก จนบางครั้งเราเองก็ตามกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว ในยุคที่เทคโนโลยี ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน การอบรมที่ทันกับคนยุคปัจบันยิ่งตอบโจทย์มากกว่า เพราะกรอบกระบวนความคิดแบบเดิมๆ อาจจะใช้ไม่ได้อีกต่อไปกับคนยุคใหม่
9. เป็นวิทยากรที่เก่งวิชาการ แล้วควรเก่ง เรื่องคนด้วย
วิทยากรที่เก่งจริงๆนั้น นอกจากต้องเก่งวิชาการ เก่งข้อมูลแล้ว ยังต้องเก่งเรื่องคนอีกด้วย เพราะการที่วิทยากรเข้าใจคน เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ทำให้วิทยากรสามารถถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดียิ่งขึ้น และที่สำคัญหากได้รับรองจากสถาบันระดับนานาชาติ ที่น่าเชื่อถือ ได้ผ่านการอบรมด้านจิตวิทยาสื่อประสาท ศาสตร์ความรู้ต่างๆ รวมถึง Adult learning จะยิ่งทำให้การอบรมองค์กรมีการถ่ายทอด และสื่อสารได้อย่างดีเยี่ยมมากยิ่งขึ้น
10. ถ้าเป็นวิทยากรที่เข้าใจมุมมองธุรกิจด้วยจะยิ่งตอบโจทย์
เพราะเขาจะมีมุมมองที่ไม่ใช่แค่ในหนังสือ แต่คือประสบการณ์จากการทำธุรกิจ และเจอปัญหาเหล่านั้นกับตัวเองจริงๆ การมองเกม การมองคน และวิเคราะห์ต่างๆจะเฉียบคมมากยิ่งขึ้น เพราะเขามีมุมมองของผู้ประกอบการ ไม่ใช่แค่วิทยากรเท่านั้น มีธุรกิจที่ทำจริง เจออุปสรรคในธุรกิจจริง มีประสบการณ์เรื่องของคนจริงๆ หากคุณเป็นองค์กรที่ต้องการวิทยากรที่เข้าใจมุมมองธุรกิจ ก็จะยิ่งทำให้การอบรมนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เพราะการเลือกวิทยากรคืองานประณีตที่ต้องดีที่สุด หากคุณกำลังมองหาวิทยากรที่ตอบโจทย์ทั้ง 10 ข้อนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลกับ LifeEnricher ได้เลยครับ
สิ่งแรกที่ต้องทราบก่อนการอบรม คือ วัตถุประสงค์ของการอบรมพนักงานของคุณ คืออะไร? เพราะถ้าบริษัทของคุณ ดำเนินธุรกิจด้วย ai เทคโนโลยีเป็นหลัก พนักงานของคุณอาจจะไม่ต้องพัฒนาในส่วนของ hard skills เยอะ และในขณะเดียวกัน คุณอาจจะอยากพัฒนาในเรื่องของแรงจูงใจในการทำงาน ความสุขของพนักงานในองค์กร อัตราการลาออกของพนักงานน้อยลง พนักงานมีความสุข ผลลัพธ์ในองค์กรก็ดี หรือถ้าวัตถุประสงค์ของคุณ คือ การสร้างผู้นำในองค์กร แน่นอนว่า คำว่า “ผู้นำ” นั้น คือคนที่สามารถนำคนได้ เพราะฉะนั้นทักษะเหล่านี้มีความจำเป็นที่สูงมาก เพราะหากคุณต้องการสร้างผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้นำในองค์กร
ต่อมา คุณก็กลับมาตรวจดูงบประมาณในการพัฒนาองค์กร เพราะแน่นอนว่า sme เล็กๆ อาจจะไม่ได้มีงบเยอะในการพัฒนาองค์กร เพราะฉะนั้นต้องมีการจัดสรรปันส่วนได้อย่างเหมาะสม และปัจจุบันก็มีหลายช่องทางในการเรียนรู้ อาทิเช่น คลาสออนไลน์ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อย จนถึงหลักพัน หลักหมื่น ในยุคดิจิตอล ถ้าคุณใช้ระโยชน์กับตรงนี้ได้ คุณจะสามารถเรียนรู้เรื่องที่คุณต้องการ ในราคาที่เหมาะสมสำหรับคุณได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากคุณให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทีมงานของคุณอย่างรวดเร็ว เข้มข้น และมีประสิทธิภาพสูง ทางเลือกในการจัดอบรมก็เป็นสิ่งที่สำคัญอยู่มาก ดังนั้นการจัดสัมมนา การอบรมให้กับพนักงานย่อมมีความจำเป็นสูง ตามงบประมาณที่มี
และที่สำคัญ วิทยากรทั่วไปในตลาด เราสามารถหาได้ตั้งแต่วันละ 15,000 บาทจนถึง วันละหลักแสน ราคาทั้งหมดนี้ไม่ได้อยู่แค่ที่เนื้อหาของการเรียนรู้ เพราะเนื้อหา ณ ปัจจุบัน ในโลกออนไลน์ก็มีมากมาย แต่สิ่งสำคัญ คือ คุณสมบัติในการถ่ายทอด ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง และเทคนิคในการนำส่งสารข้อมูลให้ผู้เรียนเปิดใจได้เรียนรู้ เเละได้การเปลี่ยนแปลงจริง นั่นต่างหากคือ มูลค่าที่แท้จริง ของการจ้างเทรนเนอร์คุณภาพสูง ซึ่ง Life Enricher ให้ความสำคัญในเรื่องของการเรียนรู้ที่ได้ผลลัพธ์ในระยะยาว
งบประมาณที่คุณเลือกนั้น ต้องมาจากประสบการณ์ของวิทยากรด้วย แน่นอนว่าวิทยากรที่ผ่านการรับรอง หรือได้รับประกาศนียบัตรมามากมาย ได้มีโอกาสอบรมให้กับองค์กรหลายแห่ง ย่อมมีโอกาสที่จะคิดราคาค่าตัวสูงกว่า ก่อนที่คุณจะตัดสินใจว่าราคาในการว่าจ้างควรอยู่ตรงไหน อยากให้คุณตระหนักถึง background ของวิทยากร ใบประกาศนียบัตรที่ได้รับมา กลุ่มลูกค้าที่เคยจ้างเขา หรือหากเป็นไปได้ ให้ลองหาช่องทางการสอนของเขา ที่เป็นตัวอย่าง เช่น youtube, facebook เป็นต้น เพื่อดูรูปแบบการสอนของเขา ภาษาที่ใช้ ตอบโจทย์กับวัฒนธรรมในองค์กรของคุณหรือเปล่า
อีกทั้ง อย่าด่วนตัดสินใจในการสรุปราคา ควรหาตัวเลือกอย่างน้อย 2-3 คนในการเลือกและเปรียบเทียบจากราคารวมถึงประสบการณ์ของแต่ละคน และที่สำคัญที่สุด ห้ามพลาดการโทรคุย และมอบโจทย์ยากๆให้เขาคิด และตอบ ณ ตอนนั้น เพราะนั่นคือการทดสอบไหวพริบได้อย่างรวดเร็วที่สุด เพราะถ้าหากว่า คุณไม่ได้โทร คุณแค่ส่งเอกสาร คำตอบที่ได้กลับมา ก็อาจจะไม่ได้วิธีคิดของวิทยากรท่านนั้นจริงๆ อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการความชัดเจนเพิ่มขึ้น คุณอาจจะให้เขาส่งรายละเอียดที่วิทยากรท่านนั้นมานำเสนอ เพื่อที่จะได้รู้ว่า วิทยากรท่านไหนสามารถออกแบบการอบรมได้ดีที่สุด ใส่ใจเรามากที่สุด นั่นคือวิทยากรมืออาชีพ และคุ้มค่ากับราคา
สุดท้าย อย่าติดกับดักจ้างวิทยากรราคาถูก และสุดท้าย คุณเสียเวลา พนักงานเสียเวลาในการทำงานทั้งวัน เสียค่าสถานที่ และจบวันแค่ว่า “ก็ดีนะ แต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง” นั่นต่างหาก คือ การลงทุนที่ขาดทุน เพราะเมื่อคุณเลือกที่จะจัดเวลาอบรมทั้งบริษัทแล้ว ดังนั้นศึกษาให้ดี ตัดสินใจให้คุ้ม บางทีสิ่งที่คุ้มอาจจะไม่ใช่การจ้างวิทยากรที่ถูกใจ แต่ต้องเลือกให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกใจในราคาที่ถูกต้อง
ตอบ เป็นเรื่องที่ HR หรือเจ้าของกิจการ ทักเข้ามาถามเยอะมาก ว่าควรพัฒนาพนักงานเรื่องไหนก่อนดี วันนี้ Life Enricher จึงได้นำแนวทางในการอบรมองค์กรมาฝากกันค่ะ
1 การอบรม hard skills เฉพาะทาง หมายถึง ทักษะที่เฉพาะเจาะจงที่แต่ละคนใช้ในการทำงานในส่วนนั้นๆ เนื่องจากเนื้องานต้องการทักษะเหล่านั้น เพราะฉะนั้นนี่คือ priority แรกที่ควรอบรม เช่น นักขาย ควรเรียนรู้การขาย นักการตลาด ควรเรียนรู้เรื่องการตลาด คนยิงแอดเฟสบุ๊ค ควรเรียนเรื่องการยิงแอด หรือพนักงานบัญชีควรเรียนรู้เรื่องการทำบัญชี นี่คือทักษะเฉพาะเจาะจงที่เรากำลังหมายถึง
2 เมื่อทักษะเฉพาะทางสามารถดำเนินได้อย่างไม่ติดขัดแล้ว การพัฒนาเรื่องสำคัญขององค์กร คือ หัวใจจริงๆของการทำงาน นั่นคือ “ปัญหาคน” โดยปัญหาคน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ทะเลาะกับตัวเอง กับ ทะเลาะกับคนอื่น และการที่จะทำให้คนหนึ่งคนเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ต้องเกิดจากการที่เขาต้องเข้าใจตัวเองก่อน
3 เรื่องถัดไป คือ ทัศนคติ (mindset) เริ่มจากแนวคิดของการรักการเรียนรู้ ปัจจุบันทุกองค์กรอยู่ในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วlifelong learning จึงเป็นอีกหนึ่งคำที่สำคัญ ที่ทุกองค์กรต้องปลูกฝังให้กับพนักงาน เพื่อเปิดรับความรู้ใหม่ๆเพื่อพัฒนาการทำงานอยู่ตลอด เพราะฉะนั้นแนวคิดที่รักการเรียนรู้ เป็นเรื่องที่ต้องพัฒนา ปราศจากสิ่งนี้ เทรนนิ่งจะไม่มีประโยชน์เลย คุณต้องทำให้เขาเห็นให้ได้ว่า การที่เขาพัฒนาเป็นผลดีของชีวิตเขา
4 เข้าใจเหตุผล และเข้าใจว่าทำไมตัวเขาถึงทำงานที่นี่ เพราะเมื่อเขาเข้าใจแรงจูงใจของตัวเอง เขาก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงไฟในการทำงาน แรงบันดาลใจในการทำงาน รวมถึงสภาวะความสุขในการทำงานอีกด้วย
5 ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นเรื่องถัดไปที่ต้องพัฒนา เพราะเมื่อเข้าใจตัวเองแล้ว มีทักษะเเล้ว รักการเรียนรู้แล้ว สิ่งที่สำคัญต่อมา คือการสู้กับปัญหาระหว่างทาง ปัญหาที่จะต้องเจอในเรื่องการทำงาน และเพื่อนร่วมงาน ทักษะ EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์จะเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้พนักงานทุกคนผ่านเรื่องยากๆได้อย่างเรียบง่าย โดยปราศจากความโกรธ ความเครียด ความเศร้า ความกังวล ผลลัพธ์ต่างๆจะทำให้คนเหล่านี้ สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง
6 เรื่องของ ทักษะคน นอกจากที่เขาจะเข้าใจตัวเองแล้ว สิ่งที่เขาต้องเข้าใจถัดมา คือ เรื่องของคน ความเข้าใจผิดของคนส่วนใหญ่ คือ ชอบคิดว่าคนอื่นต้องเป็นเหมือนตัวเรา แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน มุมมองความเข้าใจคนในแต่ละมุมที่ไม่เหมือนกัน ต้องปรับการสื่อสารที่แตกต่างกัน จะส่งผลให้เราสามารถโน้มน้าว สื่อสาร มอบหมายงาน ให้ฟีดเเบ็ค หรือ ประสานงานกันในทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยกตัวอย่าง พนักงานคนหนึ่งชอบการสื่อสารที่สั้น กระชับ ได้ใจความ กับพนักงานอีกคนหนึ่ง ชอบการสื่อสารแบบอ้อมๆ รักษาน้ำใจ แค่สองคนนี้มาคุยกัน ถ้าไม่เข้าใจเรื่องคน การทำงานก็สะดุดแล้ว แต่แค่มีทักษะของคน เพิ่มเข้ามา จะทำให้งานเดินได้อย่างลื่นไหลทันที เพราะเราเข้าใจความเป็นปัจเจกบุคคล
7 เมื่อจัดการตัวเองได้เเล้ว คุณต้องมีคุณสมบัติในการบริหารคน ดึงศักยภาพในผู้คน และเป็นแบบอย่างที่ดี นั่นคือสิ่งที่ผู้นำ และผู้ตามทำงานแตกต่างกัน เพราะ ผู้นำทำก่อน รับผิดชอบมากกว่า มีทัศนคติที่ใจกว้างกว่า และ สามารถโอบอุ้มทีมงานได้ ไม่ใช่คนที่ชี้นิ้วสั่ง โดยเฉพาะยุคนี้ที่จะมี วลี คำว่า “Leader as Coach” หรือ ผู้นำในแบบของโค้ช ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลงมาแรงมากในปัจจุบัน ถือว่าเป็นเทรนด์ใน 20s century skills ในการพัฒนาภาวะผู้นำ ดังนั้น หากองค์กรของคุณกำลังตั้งเป้าหมายในการสร้างผู้นำ Coaching เป็นหนึ่งศาสตร์ที่คุณห้ามพลาด และใน Life Enricher เรามี signature training คือ หลักสูตร Peak Performance Coach ที่จะใช้ในการโค้ชชิ่ง เพื่อให้ผู้นำของคุณไม่ได้สร้างผู้ตาม แต่เป็นการที่ผู้นำของคุณจะสร้างผู้นำ