🚨 4 กับดักที่ทำให้คุณไปไม่ถึงความสำเร็จ ! ยาวไปเลือกอ่าน 📖 4 กับดักที่ทำให้คุณไปไม่ถึงความสำเร็จ ชีวิตของเรานั้นเต็มไปด้วยกับดัก ที่มักจะแฝงตัวเองไว้ เอาไว้ในคราบของเป้าหมาย อายุ 20 ต้องเรียนจบปริญญาตรี อายุ 30 ต้องมีแฟน มีรถ มีคอนโด อายุ 40 ต้องแต่งงาน ต้องมีลูก สิ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นเป้าหมายที่หลายคนอยากทำให้สำเร็จ แต่สงสัยกันไหมทำไมพยายามเท่าไร กลับทำไม่ได้และไม่เป็นดั่งใจสักที อาจเป็นเพราะเรากำลังติดอยู่กับ กับดักชีวิตบางอย่างโดยไม่รู้ตัวก็ได้ ผมเชื่อว่าหลายคนมีความฝัน หลาย ๆ คนอาจทำความฝันได้ประสบความสำเร็จไปบ้างแล้ว แต่ก็มักจะมีความฝันที่ใหญ่และท้าทายมากขึ้น และหลายครั้ง อุปสรรคที่ขวางไม่ให้เราไปถึงความสำเร็จ ไม่ได้มาจากปัจจัยภายนอกเท่านั้นปัจจัยภายในนั้น ค้นหาและกำจัดออกไปได้ยากกว่าเสียอีก !!! เปรียบเหมือนเป็นก้อนหินในใจ ที่คอยขวางไม่ให้ความฝันนั้นไหลผ่านไปได้อย่างราบรื่น ก้อนหินในใจเหล่านั้นมีมากมาย และหลายคนก็มีก้อนหินในใจแตกต่างกันไป สิ่งที่ทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จ และไม่ไปไหนมาไหนสักที เพราะว่ามี 4 ก้อนหินนี้ที่คอยฉุดรั้งคุณอยู่ก้อนหิน 4 ก้อนที่ฉุดรั้งคุณไว้ มีอะไรบ้าง ? มาดูกัน! 🪨 ก้อนหินก้อนที่ 1 : Negative Thinking ความคิดเชิงลบ คือ 1 ในอุปสรรคที่ทำให้คุณไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคุณจะเห็นสิ่งต่าง ๆ ในแง่ลบ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์รอบข้าง การกระทำของตนเอง หรือสิ่งที่คนอื่นทำ อาจเป็นความคิดในเชิงวิตกกังวล หรือตำหนิตัวเอง คิดไปก่อนว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่ดี ส่งผลให้ไม่สามารถมองเห็นโอกาสหรือแนวทางแก้ไขปัญหาได้ชัดเจน ลองสำรวจตัวเอง จากตัวอย่างนี้กันดูครับ ! 1. มีความคิดที่ไม่ดีต่อสิ่งที่ทำอยู่ มีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังฝืนทำอะไรบางอย่าง ทั้งที่ไม่อยากทำ เพราะถูกบังคับ เพราะมีความจำเป็นต้องทำ ทำด้วยความจำใจ ไม่มีทางเลือกอื่น สุดท้าย ความฝันที่เกิดจากการทำโดยปราศจากความรู้สึกที่ดี ย่อมไม่ทำให้คน ๆ นั้นมีความสุขกับสิ่งที่ทำได้ 2. มีความคิดที่ไม่ดีต่อตัวเอง หลายคนชอบคิดลบกับตนเอง คิดว่าตัวเองไม่ดี คิดว่าตัวเองห่วย คิดว่าตัวเองไม่คู่ควรกับการมีความสุข และเมื่อมีความคิดที่ไม่ดีต่อตนเอง ก็ย่อมทำให้การเดินทางไปสู่ความฝันนั้นไม่ราบรื่น เพราะมีความคิดที่ไม่ดีกับตัวเองเป็นตัวคอยฉุดรั้งอยู่ 3. มีความคิดที่ไม่ดีต่อคนรอบข้าง บางคนมีความคิดที่แย่ต่อคนอื่นที่อยู่รอบตัว คิดว่าคนอื่นแย่ไปหมด คนอื่นคิดร้าย คนอื่นไม่จริงใจ คนอื่นคิดจะหาผลประโยชน์จากเรา สุดท้าย ความคิดลบที่มีต่อคนอื่นจะทำให้เรา "ไม่รู้สึกรักใครจริง" และสุดท้ายจะกลายเป็นเราเองที่ไม่อยากเข้าหาผู้อื่นและไม่สามารถเข้ากับผู้อื่นได้ 4. มีความคิดที่ไม่ดีต่อโลกใบนี้ หลายครั้งเราจะได้ยินคนบ่นว่า โลกใบนี้มันแย่ โลกใบนี้มันเลวร้าย นั่นคือชุดความคิดที่ไม่ดีต่อโลกใบนี้ จากการมองโลกแต่ในด้านลบ ๆ เพียงอย่างเดียว น่าแปลกที่ไม่เคยมีใครสังเกตว่า โลกที่ไม่ดี กับ โลกที่ดี จากสายตาของอีกคน มันก็คือโลกใบเดียวกันกับโลกของเรา 🪨 ก้อนหินก้อนที่ 2 : Negative Emotion อารมณ์เชิงลบ คืออารมณ์ที่ส่งผลให้รู้สึกไม่ดี เช่น ความเศร้า, ความโกรธ, ความผิดหวัง, หรือความเครียด อารมณ์เหล่านี้มักส่งผลต่อการกระทำในทางที่ไม่สร้างสรรค์ รวมถึงอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์และการดำเนินชีวิตโดยรวมของเรานั่นเองลองสำรวจตัวเอง จากตัวอย่างนี้กันดูครับ ! 1. ไม่ได้ชอบในสิ่งที่ทำอยู่จริง ๆ การที่เราคิดว่าเราชอบทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพียงเพราะเห็นคนอื่นทำแล้วอยากทำบ้าง ทำตามกระแส ทำตามค่านิยมของสังคม แต่สุดท้ายแล้ว เราไม่ได้ชอบสิ่งที่ทำอยู่จริง ๆ สุดท้ายเราจะไม่รู้จักตัวเอง มองไม่เห็นความชอบที่แท้จริงของตัวเอง หาตัวเองไม่เจอ และทำให้การทำความฝันให้เป็นจริงนั้นยากยิ่งขึ้นไป เพราะลึก ๆ เราไม่ได้ชอบในสิ่งนั้นจริง ๆ 2. รู้สึกกลัว เข็ดขยาด ความกลัวเป็นอุปสรรคอีกข้อหนึ่งที่ทำให้เราหยุดทำตามฝันก่อนที่มันจะสำเร็จ ความกลัวมักเกิดจากการที่ลงมือทำอะไรลงไปแล้วไม่เป็นไปตามที่คาด หรือให้ผลในทางลบ กลัวว่าจะเกิดขึ้นอีก กลัวว่าจะซ้ำรอยเดิม ซึ่งความกลัว ความเข็ดขยาดนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเองจากปมในใจของเรา 3. รู้สึกเหนื่อย ท้อแท้ ความเหนื่อย ท้อแท้เองก็เป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ เพราะทำให้เราหมดไฟ หมดพลัง หมดแรงใจที่จะก้าวไปต่อ ซึ่งความจริงแล้ว ความเหนื่อย ท้อแท้ เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ จึงมักมีคำกล่าวว่า ท้อได้แต่อย่านาน ท้อได้แต่อย่าถอย 4. รู้สึกขี้เกียจ เบื่อหน่าย ไม่อยากทำ อุปสรรคที่เกิดจากความขี้เกียจอาจเป็นเพราะเราเอาใจไปอยู่กับความสำเร็จปลายทาง จนไม่มีความสุขกับการลงมือทำเนื้องานที่ทำอยู่จนกลายเป็นความขี้เกียจ เบื่อหน่าย ไม่อยากทำเพราะรู้สึกไม่มีความสุข 🪨 ก้อนหินก้อนที่ 3 : Limiting Beliefs อุปสรรคนี้เกิดจากความเชื่อ หรือความคิดที่อยู่ในจิตใจของเราที่ส่งผลให้เราจำกัดศักยภาพหรือความสามารถของตนเอง ความเชื่อเหล่านี้มักจะเป็นความคิดเชิงลบเกี่ยวกับตัวเราเอง โลกภายนอก หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะไม่มีมูลความจริงหรือไม่ใช่ความจริงทั้งหมด Limiting beliefs มักจะมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมา การถูกสอนสั่ง หรือจากการรับรู้ของตัวเองที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจ การดำเนินชีวิต และการพัฒนาตนเอง ทำให้เราไม่กล้าที่จะก้าวออกจาก comfort zone และพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ ให้กับตัวเองลองสำรวจตัวเอง จากตัวอย่างนี้กันดูครับ ! 1. เชื่อว่าตนเองทำไม่ได้ บางคนเชื่อว่าตนเองทำไม่ได้ มันยากเกินไป ความสามารถเราไม่พอ สุดท้าย ความเชื่อนั้นก็จะเป็นตัวดึงทำให้เขาล้มเลิกความตั้งใจในที่สุด 2. เชื่อว่าตนเองทำได้ไม่ดีพอ บางคนมีเชื่อที่ฝังแน่นว่าเราอาจทำได้ไม่ดีพอ จะนำมาซึ่งความรู้สึกไม่อยากทำต่อ บั่นทอน และเกิดความไม่ต่อเนื่องจากการลงมือทำ ซึ่งเป็นผลให้ไม่ประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่ง 3. เชื่อว่าตนเองไม่ควรค่าพอ คนที่เชื่อว่าตนเองไม่ควรค่าพอ หรือไม่คู่ควรกับอะไรบางอย่าง เกิดจากการไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ประเมินคุณค่าในตัวเองต่ำไปจึงทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่มีค่านั้น เป็นสิ่งที่เขาไม่สมควรได้รับ 4. ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต มีบางคน ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต เมื่อต้องทำความสำเร็จครั้งใหม่ในปัจจุบัน มักนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับตัวเองในอดีตจนกดดันตัวเอง เกร็ง ไม่มีความสุข ในการลงมือทำเนื้องานเพื่อตามความฝันอีกต่อไป ดังนั้น การทำลาย limiting beliefs เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการในการพัฒนาตนเอง ซึ่งมักจะทำโดยการสร้างความตระหนักรู้ การตั้งคำถามกับความเชื่อที่จำกัด และการเปลี่ยนแปลงแนวคิดเพื่อเปิดโอกาสให้กับตัวเองในการประสบความสำเร็จและมีความสุขมากขึ้น 🪨 ก้อนหินก้อนที่ 4 : Inner Conflict ความขัดแย้งภายใน คือสภาวะที่จิตใจเกิดการสับสน หรือขัดแย้งกันระหว่างความต้องการ ความเชื่อ หรืออารมณ์ที่แตกต่างกัน เช่น ต้องการทำบางสิ่งแต่ก็กลัวไม่ประสบความสำเร็จ หรือ รู้ว่าควรทำอะไรแต่ไม่สามารถทำได้ ความขัดแย้งภายในนี้ทำให้เกิดความเครียด สับสน และทำให้การตัดสินใจยากขึ้นลองสำรวจตัวเอง จากตัวอย่างนี้กันดูครับ ! 1. สับสนในเส้นทางที่กำลังทำอยู่ ความไม่แน่วแน่ในสิ่งที่ทำ ทำให้เกิดความสับสนว่า ตกลงสิ่งที่ทำอยู่นั้น ดีหรือไม่ ? ควรเลือกเส้นทางไหน รักพี่เสียดายน้อง ทำ ๆ หยุด ๆ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนไม่ไปทางไหนสักทาง 2. ฟุ้งซ่าน ขาดสมาธิในการทำงาน ความคิดฟุ้งซ่าน คิดไปเรื่อย ไม่มีสมาธิ ไม่โฟกัส ไม่อยู่กับปัจจุบัน มัวแต่คิดถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้วในอดีตเรื่องที่ยังมาไม่ถึงในอนาคต เป็นอุปสรรคสำคัญ ในการทำความฝันให้เป็นจริงอย่างมาก 3. ลังเลกับเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน การมีเป้าหมายที่ไม่ชัดเจนนั้น ย่อมส่งผลต่อการกระทำที่ไม่ชัดเจนด้วย ทำให้เกิดความลังเล เปลี่ยนเป้าหมายไปมาตามอารมณ์ จนสุดท้าย เหมือนหลงอยู่ในวังวนแห่งความลังเล ไม่รู้ว่าจะต้องเดินไปทิศทางไหนดี สรุป การหลงติดอยู่กับกับดัก "ก้อนหิน 4 ก้อน" เป็นอุปสรรคที่ขัดขวางความสำเร็จ คือ ความคิดเชิงลบ (Negative Thinking), อารมณ์เชิงลบ (Negative Emotion), ความเชื่อที่จำกัดตนเอง (Limiting Belief), และความขัดแย้งภายใน (Inner Conflict) ที่ทำให้เราตกอยู่ในวังวนแห่งความลังเล หยุดพัฒนาตัวเอง และไม่สามารถก้าวไปสู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่รีบแก้ไขและเผชิญหน้ากับกับดักเหล่านี้ จะทำให้เราพลาดโอกาสในการเติมเต็มชีวิต และประสบความสำเร็จตามความฝันที่ตั้งไว้ การหลงติดอยู่กับกับดัก "ก้อนหิน 4 ก้อน" เป็นอุปสรรคที่ขัดขวางความสำเร็จ คือ ความคิดเชิงลบ (Negative Thinking), อารมณ์เชิงลบ (Negative Emotion), ความเชื่อที่จำกัดตนเอง (Limiting Belief), และความขัดแย้งภายใน (Inner Conflict) ที่ทำให้เราตกอยู่ในวังวนแห่งความลังเล หยุดพัฒนาตัวเอง และไม่สามารถก้าวไปสู่เป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่รีบแก้ไขและเผชิญหน้ากับกับดักเหล่านี้ จะทำให้เราพลาดโอกาสในการเติมเต็มชีวิต และประสบความสำเร็จตามความฝันที่ตั้งไว้ หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังเจออุปสรรคที่ขัดขวางให้คุณไม่ประสบความสำเร็จซักที! โอมอยากเชิญชวนทุกคนมาเรียนรู้ด้วยกันใน "หลักสูตร Self Breakthrough X" ผสาน 3 ศาสตร์การพัฒนาตัวเอง (ศาสตร์การโค้ช PPC + จิตวิทยาสื่อประสาท NLP + การสะกดจิตบำบัด EHT)ที่จะพาคุณไป Workshop เข้มๆ รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างแท้จริง ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้ แล้วเจอกันนะครับ 🚀https://lifeenricheracademy.com/wp-content/uploads/2024/10/SBTX-10-ความเชื่อส่งผลต่อผลลัพธ์-1.mp4 สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หรือช่องทางการติดต่อด้านล่าง โทร : 0936955699 (คุณจีจี้) / 0949994922 (คุณเฟียส) บทความที่คุณน่าจะสนใจ