ยาวไปเลือกอ่าน 📖
วิธีเติมพลังให้ถึงเป้าหมาย เมื่อหมด Passion
เคยไหม? หมด Passion ในการใช้ชีวิต เพราะมีเป้าหมายที่เราตั้งไว้อาจท้าทายขีดความสามารถของเรามากเกินไป บางคนมีเป้าหมายช่วงต้นปีว่าอยากจะสร้างผลลัพธ์หลาย ๆ อย่างให้กับตัวเอง
ผมเชื่อว่าทุกคนในโลกมีศักยภาพมากพอที่จะทำให้ความฝัน และความต้องการของตัวเองเป็นจริงได้ แต่คำถามก็คือ ในเมื่อทุกคนก็มีเป้าหมายกันทั้งนั้น แต่ทำไมไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ตามเป้าหมายของตัวเองได้ ?
วันนี้ LifeEnricher จะมาบอกคำตอบให้ครับ
1) เมื่อหมด Passion เราต้องชัดเจนว่าต้องการอะไรจริง ๆ
เมื่อหมด passion เราต้องชัดเจนว่าต้องการอะไรจริง ๆ ทุกกระบวนการในการสร้างความสำเร็จจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าหากคุณไม่ชัดเจนสุดๆ ว่า คุณต้องการอะไร คุณต้องการสิ่งนั้นเพื่ออะไร สิ่งนั้นจะให้อะไรกับคุณบ้าง และคุณต้องการมันมากแค่ไหน
คราวนี้ความชัดเจนแค่ไหนถึงจะเรียกว่า ” ชัดเจนสุด ๆ ” ล่ะ ? คำตอบก็คือ คำว่า “ ชัดเจนสุด ๆ ” คือคุณต้องสามารถตอบตัวเองได้
ขอยกตัวอย่าง การตั้งคำถาม เพื่อให้คุณได้ชัดเจนกับตัวเองมากขึ้น
- คุณบอกว่าคุณอยากหุ่นดี คุณอยากจะหุ่นดีไปเพื่ออะไร ?
- คุณอยากจะทำให้ตัวเองน่าดึงดูด หรือคุณอยากจะทำให้ตัวเองมีความมั่นใจมากขึ้น ?
- แล้วถ้าคุณบอกว่าคุณอยากจะดูน่าดึงดูดมากขึ้น ความน่าดึงดูดนี้จะให้อะไรกับคุณบ้าง ?
- คุณจะรู้สึกดีเวลาที่มีคนมาชื่นชมตัวคุณ หรือคุณจะรู้สึกดีถ้าเกิดว่าคนที่คุณตกหลุมรักหันมาสนใจความเปลี่ยนแปลงของคุณ ?
- แล้วที่คุณบอกว่าอยากจะมีความมั่นใจมากขึ้น ความมั่นใจนั้นจะให้อะไรกับคุณ ความมั่นใจทำให้คุณกล้าแสดงออกมากขึ้น แล้วคุณจะมีโอกาสในหน้าที่การงานมากขึ้น ?
- ความมั่นใจจะทำให้คุณกล้าเข้าสังคมมากขึ้น กล้าสู้หน้ากล้าสื่อสารกับคนมากขึ้น ?
- ความมั่นใจนั้นจะทำให้คุณสามารถแต่งตัวในแบบที่คุณต้องการได้ ?
แล้วถ้าคุณแต่งตัวตามความต้องการได้จะให้อะไรกับคุณ ? ถ้าคุณสามารถตอบคำถามที่ผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ ว่า ถ้าได้แบบนั้นแล้วดีอย่างไร หรือ ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้จะได้อะไร จนคุณเจอคำตอบที่ทำให้คุณรู้สึกว่าเนี่ยแหละ สิ่งที่ทำให้คุณอยากจะเริ่มต้นสร้างผลลัพธ์นี้ นั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ดังนั้นจงหาคำตอบของตัวเองให้เจอว่าคุณอยากได้สิ่งนี้เพื่ออะไร
2) มองหาข้อผิดพลาดของตัวเอง เมื่อหมด Passion
เมื่อคุณได้ความชัดเจนกับตัวเองแล้ว เชื่อว่าคุณจะสามารถหาขั้นตอน หรือเส้นทางการเดินทางของคุณเพื่อเป้าหมายคุณได้แน่นอน
และแน่นอนว่าระหว่างทางก่อนที่คุณจะถึงเป้าหมายนั้น จะเกิดปัญหาแน่นอน ซึ่งนี่จะเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของคุณในการบรรลุเป้าหมาย และเมื่อเกิดปัญหาแล้ว สิ่งที่จะตามมาก็คือ “ไฟมอด” หรือ หมด Passion นั่นเอง
2 สิ่งที่ผมอยากแนะนำให้คุณทำ
- หยุดและตั้งสติ : บอกกับตัวเองไว้เสมอว่า “คุณยังมีเรื่องที่สามารถปรับปรุงได้” , “คุณสามารถผิดพลาดได้ ” เรียนรู้จากทุกข้อผิดพลาด เพราะนี่คือโอกาสจะทำให้คุณเก่งขึ้น
- วิเคราะห์และหาสาเหตุ : ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้หมายความว่าวิธีการของคุณจะผิดตั้งแต่ต้นจนจบ คุณจะต้องค่อยๆ มองหาข้อผิดพลาด หรือ Spot the error ให้ถูกจุด และแก้ไขให้ถึงต้นเหตุ การรู้จักหา และแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเองไม่เพียงช่วยให้คุณกลับมามุ่งหน้าสู่เป้าหมายได้ แต่ยังช่วยให้ Passion ของคุณกลับมาอีกครั้งด้วย
3) ตัด Error ออกไปจากชีวิต หากคุณรู้สึก หมด Passion
เมื่อคุณมองหาปัญหาเจอแล้ว ตอนนี้เป็นส่วนที่คุณจะต้องเตรียมตัวสำหรับการปรับเปลี่ยน หรือวางแผนแล้วว่า ด้วยทรัพยากรที่คุณมีอยู่คุณสามารถปรับเปลี่ยนอะไรได้บ้าง นั่นคือการตัด Error ออกไปจากชีวิต
และอะไรล่ะ คือ Error ในชีวิตของคุณ ? สิ่งที่ไม่ได้สนับสนุน หรืออาจขัดขวางคุณจากการบรรลุเป้าหมาย หรือการรักษา Passion ในการทำงานหรือชีวิตส่วนตัว. เช่น พฤติกรรม, นิสัย, การตัดสินใจ, บางอย่าง หรือแม้แต่สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาชีวิต หรือจิตใจของคุณ
ยกตัวอย่างเช่น การเล่น Social Media ที่มากเกินไปทำให้ ประสิทธิภาพการทำงานของคุณลดลง หรือให้คุณเสียสมาธิจากงาน หรือ เมื่อคุณเล่น Social Media ทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวล หรือเกิดการเปรียบเทียบกับผู้อื่น ซึ่งทำให้สภาพจิตใจคุณแย่ลง ก็สามารถถือว่าเป็น Error ที่คุณต้องตัดออกหรือต้องลดลง
สิ่งที่สำคัญคือคุณจะต้องซื่อสัตย์กับตัวเองว่าอะไรคือสิ่งที่คุณควรจะตัดจริง ๆ ไม่ใช่ว่าคุณรู้ทั้งรู้ว่าอะไรที่ดีกับเป้าหมายของคุณ และอะไรที่ไม่ดีกับเป้าหมายของคุณ ซึ่งถ้าคุณนึกย้อนไปถึงตอนที่คุณชัดเจนกับตัวเองในข้อแรกแล้ว เชื่อว่าคุณจะไม่มีปัญหาในการตัด error นี้ออกไปแน่นอน
4) ใช้เครื่องมือช่วย ลดความเหนื่อยล้า
ในปัจจุบันนี้มีการแข่งขันกันมากขึ้นในทุกมิติไม่แปลกที่ตัวคุณเองจะหมด Passion เพราะหลายคนมีภาระ และความรับผิดชอบมากมายในแต่ละวันจนบางครั้งลืมจัดสรรเวลาสำหรับตัวเอง การมีเครื่องมือช่วยจัดการเวลาเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณคง Passion ไว้ได้ และไม่หลุดจากเป้าหมาย
เชื่อว่าหลาย ๆ คนมีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละวันแบบนับไม่ถ้วน จนบางครั้งคุณอาจจะกำลังจดจ่อกับสิ่งที่คุณกำลังรับผิดชอบอย่างอื่นจนลืมจัดสรรเวลา เพราะบางคนมีอาการแบบนี้จริง ๆ เวลาจดจ่อกับอะไรบางสิ่งบางอย่างอยู่ก็จะเหมือนอยู่ในโซนจมไปกับกิจกรรมนั้น ๆ โดยที่ลืมดูเวลาไปเลย เคยเห็นหลายคนอยู่เหมือนกันที่เวลาสมองแล่น เครื่องติดแล้วก็จะง่วนอยู่กับการทำงานขนาดที่ว่าน้ำไม่ดื่ม หรือไม่เข้าห้องน้ำเลยทีเดียว การใช้เครื่องมือช่วย ตอนนี้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามีเครื่องไม้เครื่องมือให้คุณเลือกอยู่นับไม่ถ้วน ผมขอยกตัวอย่าง แบบนี้ครับ
1. แอปพลิเคชันที่ช่วยในการจัดการเวลา (Time Management Apps) : ตัวอย่างเช่น Trello แอปพลิเคชันจัดการโปรเจกต์ที่ช่วยให้คุณจัดระเบียบงานต่าง ๆ ผ่านการสร้างบอร์ดและการ์ด , Google Calendar ช่วยในการวางแผนกิจกรรมและการนัดหมายต่าง ๆ สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเพื่อเตือนให้คุณไม่พลาดกิจกรรมสำคัญ และหนึ่งในเครื่องมือที่เข้าถึงและใช้ง่ายทึ่สุดก็คือฟังค์ชั่นนาฬากาปลุกใน Smartphone ของคุณนั่นแหละ ตั้งไว้เลยว่าคุณมี Action ไหนตอนเวลาเท่าไหร่ คุณจะได้ไม่โดนดูดกับอะไรบางอย่างมากเกินไปจนลืมเป้าหมายของคุณไป
2. แอปพลิเคชันเพื่อการผ่อนคลายและการทำสมาธิ (Relaxation and Meditation Apps) : Headspace: แอปสำหรับการทำสมาธิและการผ่อนคลาย มีโปรแกรมต่าง ๆ ที่ช่วยให้คุณลดความเครียดและฟื้นฟูพลังงาน, Calm : แอปพลิเคชันที่นำเสนอโปรแกรมการทำสมาธิ การนอนหลับ และการผ่อนคลาย ช่วยให้คุณกลับมาสู่ความสงบและเพิ่มสมาธิ, Hypnosis for Emotional Apps ฟังคลิปเสียงสะกดจิตบำบัด ผ่อนคลายความเครียด
3. อุปกรณ์ช่วยเหลือสุขภาพ (Health Gadgets) : Fitness Tracker: อุปกรณ์ที่ช่วยในการติดตามการออกกำลังกาย การนอนหลับ และระดับความเครียด ช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น , Smartwatch: นาฬิกาอัจฉริยะที่ไม่เพียงแต่ใช้บอกเวลา แต่ยังสามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ และแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาพักผ่อน
5) สร้าง หรือเข้าร่วม community สำหรับการพัฒนาตัวเอง
ถ้าเครื่องมือในหัวข้อก่อนหน้านี้เป็นเครื่องมือเชิงเทคโนโลยี กลุ่มสังคมจะเป็นเครื่องมือที่จะทำให้คุณอยู่ในร่องในรอยที่คุณตั้งใจไว้ได้ดีที่สุด
ถ้าคุณอยากจะดูแลรูปร่างตัวเองก็ควรจะต้องหากลุ่มเพื่อนที่มีเป้าหมายเดียวกัน และเดินทางไปด้วยกัน ซึ่งเพื่อนร่วมทางของคุณจะช่วยคุณแก้ไขข้อบกพร่อง รวมทั้งคอยจี้คุณให้ลุกขึ้นมาในวันที่คุณเหนื่อย และในทางกลับกันตัวคุณเองก็จะเป็นคนที่คอยกระตุ้นเพื่อนของคุณ เป็นกลุ่มสังคมที่คอยช่วยเหลือกัน และเป็นเพื่อนร่วมทางที่มีเป้าหมายเดียวกันที่พร้อมจะเดินไปกับคุณ พยายามสร้างสภาพแวดล้อมให้มีแต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายของคุณอยู่รอบตัวคุณอยู่ตลอดเวลา แล้วคุณจะพบว่ามันเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะออกนอกลู่นอกทาง
และนี่คือสิ่งที่จะทำให้คุณอยู่ในสภาวะที่คุณกำลัง “ อิน “ กับเรื่องบางเรื่องอยู่ตลอดเวลา และเป็นอีกหนึึ่งข้อที่สำคัญที่จะสามารถ เติมไฟ Passion ของคุณได้อยู่ตลอด
ใครอ่านมาถึงตรงนี้ และสนใจที่อยากจะทำให้ PASSION ของคุณอยู่กับคุณ และสำเร็จทุกเป้าหมายที่ตั้งไว้ มาร่วมรียนรู้หลักสูตรของ LifeEnricher ที่ออกแบบมาเพื่อคุณ!
หลักสูตรจิตวิทยาสื่อประสาท( Neuron-Lingistic Programming ) คือสุดยอดเครื่องมือการพัฒนาตัวเองในการโปรแกรมสมอง จิตใต้สำนึก และสภาวะอารมณ์ที่สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่ต้องการในชีวิต เป็นทางลัดสู่การพัฒนาตัวเองเเบบก้าวกระโดด หรืออยากเรียนรู้เกี่ยวกับ NLP เพิ่มเติม ในหลักสูตรจิตวิทยาสื่อประสาท 7 วัน ที่พลิกวิธีคิดต่อความสำเร็จ และความสุขในชีวิตของคุณไปตลอดกาลเลยครับ
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Line : @LifeEnricher
Facebook: TheLifeEnricher
โทร: 02-017-2758, 094-686-6599
บทความอื่นๆ
