วิธีเติมไฟ Passion ให้กลับมามีพลังทำในสิ่งที่ชอบอีกครั้ง ❤️
ยาวไปเลือกอ่าน 📖
วิธีเติมไฟ Passion ให้กลับมามีพลังทำในสิ่งที่ชอบอีกครั้ง
ทุกคนเคยมีช่วงเวลาที่รู้สึกมีไฟมาก ๆ จาก Passion ของตัวเองไหมครับ ? อยากทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จ แต่หลายครั้งพบว่าความกระตือรือร้นนี้ไม่ได้เปลี่ยนเป็น
Productivity ที่สร้างผลลัพธ์ได้จริงเลย เมื่อ Passion กลายเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นชั่วคราว ผลที่ตามมาคือการทำงานที่ไม่สำเร็จ หรือเป้าหมายที่ไม่เป็นจริง ทำให้เราสูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเองและรู้สึกผิดหวังในที่สุด
หลาย ๆ คนที่กำลังหา Passion ในชีวิต ค้นหาตัวเองว่าสิ่งที่ตัวเองชอบคืออะไร แต่ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหนก็ยังหาไม่เจอ เป็นเพราะว่า “ไม่ได้เริ่มลงมือทำ” หรือ “ลงมือทำน้อยกว่าที่คิด” ก็เลยทำให้พลาดโอกาสที่จะเรียนรู้ และใช้เวลาในการพิสูจน์ว่า เราชอบ หรือไม่ชอบอะไรจริง ๆ ซึ่งนี่เป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญอยู่
1. ไฟหมดเร็ว : หลายคนเริ่มต้นทำงานด้วยความมุ่งมั่นสูง แต่ไม่นานก็หมดไฟ ทำให้สิ่งที่ตั้งใจไว้ไม่เสร็จสมบูรณ์ ความท้อแท้เข้ามาแทนที่ Passion ที่เคยมี
2. ไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน : เมื่อทำหลายสิ่งพร้อมกันหรือไม่มีการวางแผนที่ชัดเจน ผลลัพธ์ที่ออกมากลับไม่เป็นที่น่าพอใจ ทำให้รู้สึกว่าเวลาและความพยายามที่ทุ่มเทไปสูญเปล่า
3. จัดการเวลาไม่เป็นระบบ : ความกระตือรือร้นในการทำสิ่งต่าง ๆ อาจทำให้คุณมีงานล้นมือ และรู้สึกว่ายุ่งตลอดเวลา การจัดลำดับความสำคัญไม่ดีส่งผลให้ Productivity ต่ำและงานไม่สำเร็จลุล่วง
วิธีแก้ไขเพื่อเปลี่ยน Passion ให้เป็น Productivity ที่ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน
1. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุด Passion ของคุณควรถูกนำไปใช้ในการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและมีความหมาย เลือกเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในช่วงเวลาหนึ่ง และทุ่มเทความพยายามให้เต็มที่กับเป้าหมายนั้น วิธีนี้จะช่วยลดความฟุ้งซ่านและทำให้คุณโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การตั้งเป้าหมายที่วัดผลได้จะช่วยให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและมองเห็นความก้าวหน้าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
2. ใช้เทคนิคการจัดการเวลา เช่น Pomodoro หรือ Time Blocking
เทคนิคเหล่านี้จะช่วยแบ่งงานให้อยู่ในช่วงเวลาที่สั้นและสามารถทำได้จริง เช่น การใช้ Pomodoro ที่แบ่งเวลาทำงานเป็นช่วงๆ ละ 25 นาที และหยุดพัก 5 นาที ช่วยให้คุณมีสมาธิกับงานและไม่รู้สึกเหนื่อยล้า ในขณะที่ Time Blocking จะช่วยจัดเวลาสำหรับกิจกรรมต่างๆ อย่างชัดเจน ทำให้คุณรู้ว่าเวลาใดควรทำงาน เวลาใดควรพักผ่อน
3. วางแผนและติดตามผลการทำงานของตัวเอง การจดบันทึกสิ่งที่คุณทำสำเร็จในแต่ละวัน และทบทวนเป้าหมายรายสัปดาห์หรือรายเดือน จะช่วยให้คุณเข้าใจพัฒนาการของตัวเองและปรับปรุงวิธีการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความมั่นใจและเป็นกำลังใจให้กับตนเองเมื่อเห็นความก้าวหน้าที่เกิดขึ้น
4. พักผ่อนและฟื้นฟูพลังงานเมื่อจำเป็นการทำงานหนักเกินไปอาจทำให้ไฟ Passion หมดเร็ว ลองให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนและฟื้นฟูพลังงาน เช่น การทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ ออกกำลังกาย หรือใช้เวลากับคนที่คุณรัก การพักผ่อนที่ดีจะทำให้คุณพร้อมกลับมาโฟกัสกับงานและเพิ่ม Productivity ได้มากขึ้น
การเปลี่ยน Passion ให้เป็น Productivity เป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริงหากมีการจัดการที่ดี เริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน จัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ติดตามผลการทำงาน และอย่าลืมให้เวลากับการพักผ่อน การแปลง Passion ให้เป็นพลังขับเคลื่อนจะทำให้ทุกวันที่คุณลงมือทำงานเป็นวันที่มีคุณค่า และผลลัพธ์ที่ได้จะไม่ใช่เพียงแค่การทำงานเสร็จ แต่ยังเป็นการพัฒนาตัวเองไปในทิศทางที่ถูกต้องและยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วยครับ
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังเจออุปสรรคที่ขัดขวางให้คุณไม่ประสบความสำเร็จซักที! โอมอยากเชิญชวนทุกคนมาเรียนรู้ด้วยกันใน “หลักสูตร Self Breakthrough X” ผสาน 3 ศาสตร์การพัฒนาตัวเอง (ศาสตร์การโค้ช PPC + จิตวิทยาสื่อประสาท NLP + การสะกดจิตบำบัด EHT)
ที่จะพาคุณไป Workshop เข้มๆ รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างแท้จริง ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ที่ทำให้เราเป็นเราทุกวันนี้
แล้วเจอกันนะครับ 🚀
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หรือช่องทางการติดต่อด้านล่าง
โทร : 0936955699 (คุณจีจี้) / 0949994922 (คุณเฟียส)
บทความที่คุณน่าจะสนใจ